การ Interface กับ Serial Port (Part I)

วันที่โพสต์: Apr 06, 2010 8:5:10 AM

การ Interface กับ Serial Port (Part I)

Introduction

การ Interface กับ Serial Port จะยากกว่าการ Interface กับ Parallel Port การสื่อสารของอุปกรณ์ที่ต่อกับ Serial Port จะถูกเปลี่ยน (Convert) เป็น สัญญาณแบบ Parallel แล้วจึงนำไป Process ต่อ ซึ่งจะใช้ Universal Asynchronous Receiver / Transmitter (UART) เป็นตัวทำหน้าที่นี้ ส่วนทางด้าน Software ก็มี Register ที่ต้องจัดการมากกว่า Standard Parallel Port (SPP) อีกหลายตัว

ถ้าเช่นนั้น Serial Port มีข้อดีกว่า Parallel Port อย่างไรบ้าง?

Hardware

Hardware Properties

อุปกรณ์สื่อสารจะจำแนกออกเป็น 2 กลุ่มคือ

DEC คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่สื่อสารเช่น Modem หรือ โทรศัพท์ หรือ Fax เป็นต้น ส่วน DTE คืออุปกรณ์ ที่ต่อกับ DCE เพื่อใช้รับและ/หรือส่งสาร ซึ่งก็คือเครื่อง Computer หรือ Terminal โดยใช้ UART เป็นตัว Interface นั่นเอง

คุณสมบัติทางไฟฟ้าของ Serial Port ตามมาตรฐาน RS-232C ของ Electronic Industry Association (EIA) พอสรุปได้ดังนี้

1. Logic “0” หรือ “Space” หรือ "On" มีค่า +3Volt ถึง +15Volt

2. Logic “1” หรือ “Mark” หรือ "Off" มีค่า -3Volt ถึง -15Volt

3. ช่วง +3Volt ถึง –3Volt เป็นช่วง Transition หรือ Undefined

4. Open circuit voltage เมื่อเทียบกับ GND ต้องไม่เกิน 25Volt

5. Short circuit current ต้องไม่เกิน 500mA ซึ่ง Driver ต้องสามารถรองรับได้

6. Total loading capacitance รวมทั้งสาย cable แล้วต้องไม่เกิน (CL) 2,500 pF

7. ค่าความต้านทานของ load และสาย cable รวมกัน (RL) ต้องไม่ต่ำกว่า 3k Ohm และไม่สูงกว่า 7k Ohm

8. ค่าแรงดันไฟด้าน Load (EL) ต้องไม่เกิน 2V

หมายเหตุ ในทางปฏิบัติ ด้านส่งจะส่งด้วยสัญญาณ +5V ถึง +15V และ -5V ถึง -15V ส่วนที่ด้านรับจะรับสัญญาณที่ -3V ถึง -15V และ +3V ถึง +15V เพื่อให้สามารถรองรับ Voltage drop และ Noise margin ในสายได้ 2V และจากข้อ 1, 2, 7 และ 8 ก็สามารถคำนวณกระแสในภาวะปรกติได้สูงสุดประมาณ 5.6 mA

RS-232C กำหนด Baud rate ไว้ไม่เกิน 20K Baud ปัจจุบันได้แก้ไขให้รองรับกับ Technology ใหม่ได้ จึงมีการปรับปรุงถึง RS-232E ซึ่งมีรายละเอียดอีกหลายอย่าง ถ้าสนใจขอให้ศึกษาจากเอกสาร RS-232E